ประวัติความเป็นมาของเครื่องถักแบบวงกลมมีมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 16 เครื่องถักเครื่องแรกเป็นแบบใช้มือ และจนกระทั่งศตวรรษที่ 19 เครื่องถักแบบวงกลมก็ถูกประดิษฐ์ขึ้น
ในปี ค.ศ. 1816 เครื่องถักแบบวงกลมเครื่องแรกถูกประดิษฐ์ขึ้นโดย Samuel Benson เครื่องจักรนี้มีพื้นฐานมาจากโครงทรงกลมและประกอบด้วยชุดตะขอที่สามารถเคลื่อนย้ายได้รอบเส้นรอบวงของโครงเพื่อทำการถัก เครื่องถักแบบวงกลมได้รับการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญเหนือเข็มถักแบบมือถือ เนื่องจากสามารถผลิตชิ้นผ้าที่มีขนาดใหญ่กว่ามากในอัตราที่เร็วกว่ามาก
ในปีต่อมา เครื่องถักแบบวงกลมได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม โดยมีการปรับปรุงโครงและการเพิ่มกลไกที่ซับซ้อนมากขึ้น ในปี พ.ศ. 2390 เซอร์เคิลเครื่องจักร Tricoter อัตโนมัติเครื่องแรกได้รับการพัฒนาโดย William Cotton ในอังกฤษ เครื่องจักรนี้สามารถผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปได้ รวมถึงถุงเท้า ถุงมือ และถุงน่อง
การพัฒนาเครื่องถักพุ่งแบบวงกลมยังคงดำเนินต่อไปตลอดศตวรรษที่ 19 และ 20 โดยมีความก้าวหน้าอย่างมากในเทคโนโลยีของเครื่องจักร ในปีพ.ศ. 2422 มีการประดิษฐ์เครื่องจักรเครื่องแรกที่สามารถผลิตผ้าลายนูนได้ ซึ่งช่วยให้สามารถผลิตผ้าได้หลากหลายมากขึ้น
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 วงกลม máquina de tejer ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมด้วยการเพิ่มระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งนี้ทำให้เกิดความแม่นยำและความแม่นยำมากขึ้นในกระบวนการผลิต และเปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับประเภทของผ้าที่สามารถผลิตได้
ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 เครื่องถักแบบคอมพิวเตอร์ได้รับการพัฒนา ซึ่งช่วยให้มีความแม่นยำและควบคุมกระบวนการถักได้มากขึ้น เครื่องจักรเหล่านี้สามารถตั้งโปรแกรมให้ผลิตผ้าและลวดลายได้หลากหลาย ทำให้มีความหลากหลายและมีประโยชน์อย่างเหลือเชื่อในอุตสาหกรรมสิ่งทอ
ในปัจจุบัน เครื่องถักแบบวงกลมถูกนำมาใช้เพื่อผลิตผ้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่ผ้าเนื้อละเอียดและน้ำหนักเบาไปจนถึงผ้าเนื้อหนาและหนักซึ่งใช้ในเสื้อผ้าชั้นนอก มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมแฟชั่นเพื่อผลิตเสื้อผ้า เช่นเดียวกับในอุตสาหกรรมสิ่งทอภายในบ้านเพื่อผลิตผ้าห่ม ผ้าคลุมเตียง และของตกแต่งบ้านอื่นๆ
โดยสรุป การพัฒนาเครื่องถักแบบกลมถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมสิ่งทอ ทำให้สามารถผลิตผ้าคุณภาพสูงในอัตราที่รวดเร็วกว่าที่เคยเป็นไปได้มาก การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังเครื่องถักแบบวงกลมได้เปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับประเภทของผ้าที่สามารถผลิตได้ และมีแนวโน้มว่าเทคโนโลยีนี้จะยังคงพัฒนาและปรับปรุงต่อไปในปีต่อๆ ไป
เวลาโพสต์: 26 มี.ค. 2023